Home » » กินเจอย่างปลอดภัย

กินเจอย่างปลอดภัย

Written By โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านคลองน้อย on วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 | 00:53



เข้าสู่ช่วงเทศกาล 'กินเจ" มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และก็อย่างที่ทราบๆ กันว่าสำหรับในประเทศไทยนั้นเทศกาลกินเจนี่ก็มี "กระแสคึกคักไม่เบา" เหมือนกัน มี 'คนไทยให้ความสนใจกันไม่น้อย" กับการกินเจ ทั้งด้วยความเชื่อเรื่องการได้บุญและมีความคาดหวังเรื่องสุขภาพ
          กับเรื่อง "บุญ" ก็จะมีการยึดโยงกับการที่ไม่กินอาหารต่าง ๆ ที่มีที่มาจากสัตว์อย่างไรก็ตาม ก็อย่างที่บรรดาผู้สันทัดกรณีชี้กันไว้ ว่า การกินเจให้ได้บุญได้กุศลอย่างถึงพร้อม จะต้องเป็นไปในรูปแบบการ "ถือศีล-กินเจ"
          ขณะที่กับเรื่อง "สุขภาพ" นั้น การกินเจให้ได้ประโยชน์ด้านสุขภาพ ก็ใช่ว่าจะยึดโยงแค่ไม่กินอาหารที่มีที่มาจากสัตว์แค่กินผัก หากแต่ต้อง "กินอย่างถูกต้อง-กินอย่างเหมาะสม" ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียสุขภาพก็ได้
          ทั้งนี้ อาหารเจ วัตถุดิบที่ใช้ปรุงต้องปลอดภัย ปรุงถูกหลักเจ และกินถูกหลักเจจริงๆ จึงจะถือว่าเป็นอาหารที่ปรุงและกินตามหลักเวชศาสตร์และเภสัชศาสตร์โบราณของจีน"...ผู้สันทัดกรณีชี้ไว้ ซึ่งก็น่าพิจารณา เพราะอาจยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าเมื่อเป็นอาหารเจก็กินได้หายห่วงเรื่องปัญหาสุขภาพ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ ยิ่งถ้าเป็นการซื้อมากิน แล้วคนที่ปรุงขายไม่ได้ใส่ใจความปลอดภัยของผู้บริโภค ก็ยิ่งไปกันใหญ่
          อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญชี้ไว้ว่า ปัจจุบันการกินอาหารเจของผู้คนบางส่วนกลายเป็นการกินแป้งมากกว่าผัก กินอาหารรสหวาน ปรุงจากการทอด ผัด ซึ่งมีไขมันมาก จึงทำให้อาจจะมีปัญหาสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งใครที่เป็นโรคเหล่านี้อยู่แล้วยิ่งต้องระวังอาการกำเริบ
          ว่ากันถึงเรื่อง "สุขภาพ" กับการกิน "อาหาร" บางคนอาจจะคิดว่าการกินอาหารเจนั้นอาจจะมีผลให้ร่างกายต้องขาดสารอาหาร จนทำให้เสียสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้วการขาดสารอาหาร การเสียสุขภาพจากการกินนั้น มีโอกาสเกิดได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นในผู้ที่กินเจหรือไม่ได้กินเจ หากไม่ได้ใส่ใจหรือไม่ได้มีการระมัดระวัง
/data/content/25903/cms/e_cgknoptuxz56.jpg
          ภัยจากการกินอาหาร
          กล่าวสำหรับการกินเจ การกินอาหารเจไม่เพียงมีกรณี "พืชผักฉุน 5 ประเภทที่ต้องห้าม" คือ 1.กระเทียม (หมายรวมถึงหัวกระเทียม ต้นกระเทียม) 2.หัวหอม (หมายรวมถึงต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่) 3.หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน ลักษณะคล้ายหัวกระเทียม แต่มีขนาดเล็กและยาวกว่า) 4 กุยช่าย(คล้ายใบหอม แต่แบนและเล็กกว่า) 5.ใบยาสูบ (หมายรวมถึงบุหรี่ ยาเส้น ของสิ่งเสพติดมึนเมา)
          ซึ่ง 5 ประเภทนี้มีรสหนัก กลิ่นรุนแรง มีผล "ทำลายพลังธาตุทั้ง 5" ทำให้พลังธาตุในกายรวมตัวกันได้ยาก มีผลต่อการทำงานของอวัยวะหลักสำคัญภายในร่างกาย มีฤทธิ์กระตุ้นจิตใจอารมณ์ให้ร้อนแรง ขัดกับการถือศีล-กินเจ...
          กับการ 'ใส่ใจการเลือกกิน" กรณีนี้ก็ 'สำคัญสำหรับการ กินเจ" ซึ่งก็มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ-ผู้สันทัดกรณี โดยสังเขปคือ...การกินเจที่ถูกสุขอนามัย นอกจากพืชผักแล้วก็ควรต้อง "กิน ผลไม้สด" ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลังอาหารทุกมื้ออย่างสม่ำเสมอ ควร "กินผักและผลไม้ให้ครบ 5 สี 5 ธาตุ" สลับเปลี่ยนหมุนเวียนในแต่ละวันคือ...1.สีแดง (แดงส้ม แสด ชมพู) ธาตุไฟ 2.สีดำ (น้ำเงิน ม่วง) ธาตุน้ำ 3.สีเหลือง (เหลืองแก่ เหลืองอ่อน) ธาตุดิน 4.สีเขียว (เขียวเข้ม เขียวอ่อน) ธาตุไม้ 5.สีขาว (ขาวนวล ขาวสะอาด) ธาตุโลหะ
/data/content/25903/cms/e_cegjly245689.jpg
          และควร กินเมล็ดธัญพืช รวมถึง กินพืชที่เป็นหัวในดิน เช่น เผือก มัน กลอย ควร กินถั่ว ซึ่งมีคุณค่าโภชนาการสูง โดยถั่วจะมีสารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ คนที่กินเจควรกินถั่วทั้ง 5 สีเป็นประจำ ซึ่งถั่วแดง ดีต่อหัวใจ, ถั่วดำ ดีต่อไต, ถั่วเหลือง ดีต่อม้าม, ถั่วเขียว ดีต่อตับ, ถั่วขาว ดีต่อปอด
          นอกจากนี้ ควรกินสาหร่ายทะเล ทั้งสดและแห้ง พร้อมทั้ง ใช้เกลือทะเลปรุงอาหาร โดย 2 อย่างนี้มีไอโอดีน ซึ่งสามารถป้องกันโรคคอพอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งควรต้อง กินอาหารหรือขนมที่ใส่งาขาวและงาดำ โดยในเมล็ดงามีกรดไขมันไลโนเลอิคที่จำเป็นต่อร่างกายมาก และร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้
/data/content/25903/cms/e_aehkmstwz279.jpg
          ไม่เท่านั้น ไม่ควรกินรสจัดเกินไป เพราะรสขมจัด ส่งผลเสียต่อหัวใจ, รสเค็มจัด ส่งผลเสียต่อไต, รสหวานจัด ส่งผลเสียต่อม้าม, รสเปรี้ยวจัด ส่งผลเสียต่อตับ, รสเผ็ดจัด ส่งผลเสียต่อปอด อีกทั้งควรต้อง "เลี่ยงการกินอาหารหมักดอง" ไม่ว่าจะเป็นผักดอง ผลไม้ดอง ควรกินแต่อาหารสดที่ปรุงใหม่ ขณะที่ในส่วนของเครื่องดื่ม ควร "ดื่มน้ำผลไม้สด" ที่ดีต่อร่างกาย และ "ดื่มน้ำสะอาดวันละอย่างน้อย 8 แก้ว" เป็นประจำ
          ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่อาจทำให้อาหารเกิดพิษภัยกับร่างกาย คือการกินตามใจ เลือกกินแต่อาหารชนิดที่ชอบไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดจากการกินอาหาร ซึ่งกับการ 'กินเจ" การเลือก 'ซื้ออาหารเจมากิน" นั้น ทางหน่วยงานด้านสาธารณสุขก็ได้เคยแนะนำไว้ สรุปได้ว่า...อาหารเจในยุคปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ การจะกิน การจะซื้อมากิน ควรต้องคำนึงถึงคุณค่า ความสะอาดปลอดภัย เพื่ออนามัยที่ดี
          'กินเจ" ก็ต้อง 'ไม่มองข้ามความปลอดภัย "กลัวกรณี 'กินเป็นภัย" กันไว้ด้วยก็จะดี!!!.


          ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
Share this article :

แสดงความคิดเห็น