เชิญชวนผู้สนใจส่งภาพถ่ายของท่านกับสุนัขแสนรัก

สธ. เชิญชวนผู้สนใจส่งภาพถ่ายของท่านกับสุนัขแสนรักเข้าประกวดในหัวข้อ “เพื่อน.....ไม่ทิ้งกัน” ชิงเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและของที่ระลึก  นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายในการดูแลสุขภาพประชาชนทุกคนให้ปลอดภัยจากโรคและภัยสุขภาพ  โดยเฉพาะโรคที่มีโอกาสติดต่อจากสัตว์เลี้ยงไปสู่คนได้  ซึ่งโรคที่สำคัญคือโรคพิษสุนัขบ้า และถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ทางด้านสาธารณสุข เพราะแม้ว่าวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจะมีมานานแล้ว แต่ในประเทศที่กำลังพัฒนาการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้ากลับไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งพบว่าในปัจจุบันยังมีผู้ถูกสุนัขกัดจำนวนมาก รัฐบาลต้องเสียงบประมาณในการฉีดวัคซีนและค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ที่ถูกสุนัขกัดในแต่ละปีจำนวนมากเช่นกัน     กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการในด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคที่อาจจะเกิดขึ้นรวมถึงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดี ศึกษาวิธีการเลี้ยงอย่างถูกต้องและมีความรับผิดชอบในการพาสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ควรเลี้ยงไว้ภายในขอบเขตบ้านหรือก่อนผู้เลี้ยงออกนอกบ้านควรผูกหรือนำเข้ากรงไว้ภายในขอบเขตบ้าน เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง เพราะมีโอกาสจะถูกกัดหรือข่วนได้ หากจำเป็นต้องพาออกนอกบ้านให้ใช้สายจูงเสมอ วันนี้ (17 มิถุนายน 2555) ดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าจากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ปี 2554 มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า จำนวน 8 ราย สัตว์ต้นเหตุแยกเป็นสุนัข 7 ราย(ลูกสุนัข 4 ราย) แมว 1 ราย แยกเป็นสัตว์ที่มีเจ้าของ 5 ราย และไม่มีเจ้าของ 3 ราย ส่วนกลุ่มที่ถูกกัดมากที่สุด คือ กลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี และ อายุ 1-4 ปีและล่าสุดในปี 2555 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เป็นผู้ป่วยเสียเสียชีวิตในจังหวัดกาญจนบุรี 1 ราย และจังหวัดระยอง 1 ราย  โดยมีสาเหตุจากการถูกสุนัขกัด และที่ผ่านมาพบว่าผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าร้อยละ 70 ติดเชื้อมาจากสัตว์เลี้ยงของตนเอง โดยชะล่าใจว่าสุนัขของตนเองเลี้ยงเป็นอย่างดีต้องปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า จึงทำให้ผู้เลี้ยงเสี่ยงป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าจากสัตว์เลี้ยงสูงมาก กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค เล็งเห็นปัญหาที่สำคัญนี้ จึงจัดกิจกรรมรณรงค์ เรื่อง “บริหารจัดการสุนัขอย่างไร คนไทยปลอดภัยโรคพิษสุนัขบ้า” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรับทราบถึงปัญหาการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า สร้างความตระหนักในเรื่อง การพาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน และสร้างเครือข่ายของผู้มีบทบาทสำคัญในการรับผิดชอบการเลี้ยงดูสุนัขให้ปลอดโรค โดยมีกิจกรรมการเสวนาในหัวข้อ “บริหารจัดการสุนัขอย่างไร คนไทยปลอดภัยโรคพิษสุนัขบ้า”จำนวน 2 ครั้ง ในครั้งแรกจัดเสวนาผ่านรายการ“คนสู้โรค” ทางสถานีโทรทัศน์ Thai PBS  และครั้งที่สองจัดเสวนา ณ MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ในวันจันทร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2555 ที่จะมาถึงนี้ ภายในการเสวนาทั้งสองครั้งก็จะประกอบด้วย การจัด Boot วิชาการ นิทรรศการ งานบริการฉีดวัคซีน และ การปรึกษาปัญหาสุขภาพสัตว์            ดร.นายแพทย์พรเทพ กล่าวต่อไปว่า อีกกิจกรรมที่สำคัญ คือ การประกวดภาพประทับใจ โดยขอเชิญนิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ส่งภาพถ่ายของท่านกับสุนัขแสนรัก มาร่วมประกวดในหัวข้อ“เพื่อน....ไม่ทิ้งกัน” เพื่อชิงรางวัลเงินสดและของที่ระลึก ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 3,000บาท พร้อมเกียรติบัตร รางวัลชมเชย 2 รางวัลๆละ 1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และของที่ระลึกสำหรับผู้ส่งภาพเข้าประกวดที่มาร่วมงานทุกท่าน สำหรับกติกาการประกวด 1.ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นไฟล์ภาพถ่ายหรือเป็นภาพขนาดโปสเตอร์การ์ด 8x10นิ้ว ปะติดภาพบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด พร้อมระบุชื่อ-สกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของผู้ส่งภาพเข้าประกวด 2.เขียนคำบรรยายภาพไม่เกิน 2 บรรทัด 3.ผู้ส่งภาพประกวดสามารถส่งได้ไม่เกิน ท่านละ 3 ภาพ 4.กรมควบคุมโรค มีสิทธิ์ในการทำ เผยแพร่โดยมิต้องขออนุญาตหรือมีค่าตอบแทนแก่เจ้าของภาพ  สามารถส่งผลงานมาได้ที่ สำนักงานโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ถนนติวานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 หรือทาง E-mail : gcdrick_com@yahoo.com ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ thaigcd.ddc.moph.go.th/ โทรศัพท์ 0 2590 3183 , 0 2590 3191 หมดเขตส่งผลงานภายในวันที่ 27 มิถุนายน 2555 กรณีที่ส่งทางไปรษณีย์ ถือวันที่ภาพถ่ายส่งถึงหน่วยงาน ไม่ถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์จากต้นทาง และจะประกาศผลการตัดสินในวันที่ 2 กรกฎาคม 2555 เวลา 16.00 น. ในงานเสวนา“บริหารจัดการสุนัขอย่างไร คนไทยปลอดภัยโรคพิษสุนัขบ้า” ณ MCC Hall เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ดร.นายแพทย์พรเทพ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในโอกาสนี้ ขอแนะนำประชาชนที่ถูกสุนัขกัด ถูกเล็บข่วน หรือถูกเลียบริเวณที่มีบาดแผล ให้ยึดหลัก ดังนี้ “ถูกกัด รีบล้างแผลใส่ยา กักหมา หาหมอ ฉีดวัคซีนต่อจนครบ” โดยหลังจากถูกกัดแล้ว ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง แล้วเช็ดให้แห้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจนครบตามที่แพทย์แนะนำ จำสัตว์ที่กัดให้ได้เพื่อสืบหาเจ้าของและสอบถามประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าติดตามดูอาการสุนัข 10วัน ถ้าสุนัขตายให้สงสัยว่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ให้ตัดหัวสุนัขแช่น้ำแข็งแล้วส่งไปตรวจที่ปศุสัตว์อำเภอหรือปศุสัตว์จังหวัด ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ส่งตรวจที่สถานเสาวภา สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ บางเขน ถ้าพบเชื้อพิษสุนัขบ้าในหัวสุนัขที่ส่งตรวจ ให้ผู้ถูกกัดหรือถูกข่วน รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ในกรณีที่ไม่สามารถกักสุนัขไว้ดูอาการได้ ก็ต้องรีบฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเช่นกัน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ไปหาหมอ เพราะบาดแผลเล็กน้อยหรือลูกสุนัขหรือมีเจ้าของจึงไม่ใส่ใจ ที่สำคัญโรคนี้เป็นแล้วตายทุกราย ไม่มียารักษา สามารถป้องกันได้ด้วยการนำสุนัขทุกตัวไปรับการฉีดวัคซีน  เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงสุนัขเองต้องมีความรับผิดชอบ เลี้ยงแล้วต้องพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าครั้งแรกเมื่อสุนัขอายุ 2-4 เดือน จากนั้นต้องพาสุนัขไปฉีดวัคซีนประจำทุกปี ส่วนในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้ปกครองและครูต้องคอยสอนเด็กให้รู้ว่า “หากถูกสุนัข แมว กัด ข่วน ไม่ว่าแผลจะเล็กหรือใหญ่ ต้องบอกผู้ปกครองหรือครูทันที”ถ้าประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทร 1422 และศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค โทรศัพท์ 0 2590 3333

แหล่งข่าวโดย » กลุ่มประชาสัมพันธ์และข่าว สนง.เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมคร.